Translate

21 พ.ย. 2561

เหรียญ 5 บาท 2529 สุพรรณหงส์ หายากระดับ R3

ฮือฮา ร้านเหรียญสะสมประกาศซื้อเหรียญ 5 บาท ปี 29 ราคา 1 แสนบาท


      ร้านซื้อ-ขายเหรียญสะสม ได้มีโพสต์รูปภาพเหรียญ 5 บาท รูปเรือสุพรรณหงส์ รุ่นปี พ.ศ. 2529 พร้อมประกาศรับซื้อในราคา 1 แสนบาท แต่ถ้ายังไม่ผ่านการใช้งาน ก็จะมีราคาสูงถึง 3 แสนบาท

      เป็นเหรียญกษาปณ์ต้นแบบ ที่ตีออกมาจำนวนน้อยมากๆ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 81 ลงวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2529 โดยนายสมหมาย ฮุนตระกูล ซึ่งนั่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น

      แต่เหรียญรุ่นที่ผลิตมาใช้งานกันจริงๆ นั้นเป็นปี 2530 (5บาทรูปเรือหงส์) เนื่องจาก ขณะนั้นรัฐบาลต้องการลดต้นทุน ในการผลิตเหรียญให้ลดลง จึงลดขนาด จากเดิมที่เป็น เหรียญ5 บาทครุฑเฉียง และ ครุฑหน้าตรงที่เดิมมีขนาด 29.5-30 มิลลิเมตร หนัก 12 กรัม เป็น ขนาด 24 มิลลิเมตรหนักแค่ 7.5 กรัม
29.5-30 ===>>> 24
12 กรัม ===>>> 7.5 กรัม (รุ่นล่าสุดในปัจจุบัน หนัก 6 กรัม)
การที่ เหรียญ 5 บาท รุ่นใหม่ มีขนาดแค่ 24 มิลลิเมตร ซึ่งขนาด พอๆกับ เหรียญบาท รุ่นเรือสุพรรณหงส์ ที่มีขนาด 25 มิลลิเมตร ซึ่งในตอนนั้นก็ยังใช้หมุนเวียนกันเป็นจำนวนมาก ทำให้แม่ค้า ที่ต้องรับต้องทอนเงิน #งงเต็ก#ถอนผิดทอนถูก และมักจะเอา #เมจิก #สีแดง มาเขียนเลข5 ที่บนเหรียญ เพื่อป้องกันการผิดพลาด ที่เอาเหรียญ 5 ไปทอน เพราะนึกว่าเป็นเหรียญบาท
ส่วนเหรียญ 5 บาท ปี 2529 นี้ หายากมากๆๆ หารูปที่ถ่ายจากเหรียญจริงๆ ยังไม่ได้ ทุกวันนี้ ยังตามหากันอยู่ว่า เหรียญ รุ่นนี้ ไปอยู่กับใคร เท่าที่ได้ยินมาคือ เป็น เจ้าหน้าที่ในโรงกษาปณ์ ในยุคกระโน้นนั้นละครับ ที่เอามาให้ดู แต่ไม่มีใครได้ถ่ายรูปไว้

15 พ.ย. 2561

Passive Income ให้เงินทำงานแทนเราดีไหม


     

     เมื่อวานได้อ่านบทความนึงแล้วคิดว่า เออ ใช่คิดเหมือนกันเลย จึงอยากเอามาเล่าต่อครับ ถึงวิธีการให้เงินทำงาน 4 วิธี

         1. สร้างรายได้จากอินเตอร์เน็ตผ่าน Affiliate Marketing

         2. ทำธุรกิจเครือข่ายหรือ การขายตรง

         3. ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

         4. ลงทุนในสินทรัพย์การเงินต่างๆ

     ถ้าหากลองไปถามเพื่อนๆดูว่า “โทษนะ เธอมีความฝันอะไรในชีวิตบ้างเหรอ” 80% ของคำตอบที่ได้รับจะต้องมีคำว่า “อยากมีเงินเยอะๆ” อยู่ด้วย เพราะว่าชีวิตของคนเรานั้น ถ้าไม่มีความต้องการเรื่อง ความรักหรือหน้าที่การงาน มันก็มักจะพาลมาที่เรื่องวุ่นวายที่มีชื่อว่า “การเงิน” นี่แหละครับ

     หลายคนมักจะปลอบตัวเองว่า "มีเงินไปก็ใช่ว่าจะมีความสุข" แต่รับรองเลยครับว่า ถ้าไม่มีเงินเนี่ย ชีวิตได้เจอความทุกข์อย่างแน่นอน 
     และเมื่อเรื่องเงินเป็นเรื่องใหญ่ เราต้องหาวิธีที่จะมีเงินเพิ่มให้จนได้...แต่เอ๊ะ!! แล้วเราจะหาเงินเพิ่มได้ยังไงดีล่ะ เคล็ดลับตรงนี้ มันอยู่ สมการเงินออม ด้านล่างนี้เลยครับ ง่ายมากๆเลยครับ

สมการเงินออม >>> เงินออม = รายรับ – รายจ่าย

     วิธีการง่ายๆ ในการเพิ่มเงินออม คือ เพิ่มรายรับ หรือ ลดรายจ่าย นั่นเอง แต่เอ๊ะ วิธีไหนมันจะดีกว่ากันนะ... ถ้าลดรายจ่ายเราทำได้ทันที แต่เพิ่มรายได้นี่ต้องใช้เวลา แต่น่าสนใจในระยะยาว 
     
     เอาเป็นว่าเขาแนะนำทั้งสองวิธีเลยละกันครับ
     
     เริ่มต้นจากการ ลดรายจ่าย โดยการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด เหลือไว้เพียงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเท่านั้น หลังจากนั้นเราค่อยมาเพิ่ม “รายได้” กันดีกว่า 

     แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า... เราจะเพิ่มรายได้ยังไงดีละเนี่ย

"สิ่งสำคัญที่สุดที่เราทุกคนควรจะระวังไว้ นั่นคือ  Passive Income ที่จะมาช่วยทำงานสร้างเงินให้เรานั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพียงแค่เอาเงินไปลงทุนแล้วจะได้กลับมาในทันทีทันใด แต่เราต้องใช้ทั้งความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงประสบการณ์อีกมากมายในการตัดสินใจ"


วิธีการเพิ่มรายได้
     ก่อนที่จะไปถึงเรื่องการเพิ่มรายได้ เราต้องเข้าใจก่อนครับว่า รายได้นั้นมี 2 ประเภท คือ รายได้หลัก หรือ Active Income กับ รายได้ทางอ้อม หรือ Passive Income

     Active Income คือ รายได้ที่เกิดขึ้นเมื่อเราทำงาน ถ้าเกิดวันดีคืนดีเราหยุดทำงาน หรือทำงานไม่ได้ เงินก็หายไปทันทีเลยจ้า เช่น งานประจำที่ทำอยู่ งานรับจ้าง งานขายของทั้งหลาย ล้วนเป็น Active Income ทั้งนั้น และถ้าเราจะเพิ่ม Active Income นั่นก็แปลว่าเราต้องเพิ่มเวลาทำงานให้มากขึ้น หรือไม่ก็เพิ่มความสามารถของตัวเองเพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนจากการทำงานมากขึ้น

     Passive Income คือ รายได้ที่ไม่ต้องใช้เวลาทำงานเพื่อแลกเงิน แต่กลับสร้างรายได้ให้กับเราเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ทีนี้ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ เริ่มสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่า Passive Income ที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง และเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปกว่านี้ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่า 4 วิธี Hot Hit เพื่อให้เงินทำงานแทนคุณกันเลยดีกว่าครับ

     1. สร้างรายได้จากอินเตอร์เน็ตผ่าน Affiliate Marketing
การสร้างรายได้วิธีนี้ จะเริ่มต้นที่เราทำการโปรโมตสินค้า บริการ หรือเว็บไซท์ใดๆก็ได้ที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต และสร้างรายได้จากการกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การคลิกลิงค์ การขายสินค้า หรือแม้แต่การสมัครสมาชิก โดยเราจะได้ค่านายหน้าตามแต่เปอร์เซ็นต์ที่เจ้าของสินค้าหรือบริการนั้นเป็นผู้กำหนด สำหรับ Passive Income วิธีนี้ บางคนอาจจะเริ่มต้นจากการทำเวปไซด์ ทำบล็อก แล้วเขียนบทความต่างๆเข้าไป เพื่อโปรโมตสินค้า หลังจากนั้นถ้าประสบความสำเร็จ มีคนเข้าเวปมากมาย ก็เตรียมตัวรอรับเงินได้เลยครับ

     2. ทำธุรกิจเครือข่าย (MLM) หรือ การตลาดแบบขายตรง นั่นคือ การเสนอขายสินค้าแบบบุคคลต่อบุคคล โดยบริษัทผู้ประกอบการจะนำเสนอโอกาสทางธุรกิจให้กับนักขายตรงอิสระทั่วไป โดยได้รับผลตอบแทนจากสินค้าที่ขายได้และการหาลูกข่าย และ เมื่อไรที่เราได้เลื่อนชั้นขึ้นมาในระดับที่องค์กรกำหนดไว้ เราก็จะได้รับผลตอบแทนจากลูกข่ายและสินค้าที่ลูกข่ายขายได้ โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไปแต่มีเงินใช้แบบสบายๆเลยจ้า

     3. ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งที่ดินให้เช่า การสร้างหอพัก คอนโด โรงแรม และทรัพย์สินอื่นๆอีกมากมาย โดยมีรายได้จากค่าเช่าที่ผู้เช่าจ่ายให้ แถมยังได้กำไรจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง หรืออย่างที่ใครเขาเรียกว่า “เสือนอนกิน” ครับ

     4. ลงทุนในสินทรัพย์การเงินต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม ทองคำ ฯลฯ โดยการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ มันอยู่ที่ว่าเรามีความเข้าใจเรื่องการลงทุนและยอมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน

    สำหรับบางคนที่มีความเข้าใจเรื่องการลงทุน และยอมรับความเสี่ยงได้มาก อาจจะเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว ทองคำ หรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอื่นๆ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้

     แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการสร้าง Passive Income นั้นยังมีอีกมากมายครับ ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความถนัดและถูกใจกับแบบไหนมากกว่าครับ

อย่าลืมนะครับว่า...การลงทุนมีความเสี่ยง
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและโปรดศึกษาหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน

13 พ.ย. 2561

2 วิธีง่ายๆแก้ปัญหาชีวิตติดโซเชียล

     สำหรับผู้ที่มักจะเผลอใช้เวลาไปกับการเล่นโซเชียลโดยไม่รู้ตัว วันนี้ขอแนะนำวิธีการเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้เราไม่เผลอไปกดและติดเข้าไปในโลกโซเชียล


     
      เคยมั้ยครับ ตั้งใจไว้อย่างดิบดี คืนนี้จะนั่งทำงานให้เสร็จ จะอ่านหนังสือ จะเล่นกับลูก จะคุยกับภรรยา แต่สุดท้ายรู้ตัวอีกที ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง รู้ตัวอีกที คุณก็กำลังนั่งเลื่อน Facebook ดู Netflix หรือ Youtube ไปเรื่อยๆ
   
     ที่จริงแล้ว คนเรานั้นมีเพียงสองเหตุผลที่อยากทำอะไรสักอย่างแล้วไม่ได้ทำครับ

       หนึ่ง มีความอยากยังไม่มากพอ ทำให้ไม่ตั้งใจ
 
       สอง มีมารผจญ หรือสิ่งรอบตัวที่คอยรบกวนให้เราไม่ให้เวลากับสิ่งที่ต้องทำอย่างเต็มที่

     ข้อหนึ่งนี่เราแก้ได้ไม่ยากครับแค่มีสมาธิและตั้งใจให้มากขึ้นก็สามารถแก้ได้แล้วครับ แต่สำหรับข้อสองจะแก้ยากหน่อยครับ เพราะเรามักจะเผลอและเพลินไปกับโลกโซเชียลที่มักจะมี ป๊อบอัป ขึ้นมากวนใจเราเสมอ ผมแนะนำ 2 วิธีในแก้การติดโซเชียลดังนี้ครับ

     1) Logout จากทุกอย่างในโลกโชเชียลครับ (ควรจด user name และ password ไว้ด้วยนะครับ) เนื่องจากปกติเราจะเลือกไว้เป็น Automatic login เวลามีข่าว หรืออัปเดดเข้ามาจะแสดงขึ้นมาทันทีทำให้เราเสียสมาธิไปได้
     วิธีนี้จะสามารถ ยื้อเวลาที่จะทำใหเราเสียสมาธิออกไปได้อีกนิดหน่อย เพราะต้องเสียเวลาในการกรอก user name และ password อีกรอบ

     2) อีกวิธีหนึ่งก็คือ “ให้ลบแอพพ์ในหน้าแรกออกให้หมด”
ปกติแล้วมือถือของเราจะมีแอพพ์มากมายอยู่ที่หน้าแรกของมือถือ ใช่มั้ยครับวิธีง่ายๆ อีกอย่างที่จะทำให้เรา “มีเวลาคิด” นิดนึง ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่นก็คือ “หน้าว่างๆ” ของมือถือนั่นเองนี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่จะเพิ่มแรงเสียดทาน (Friction) ให้กับนิสัยแย่ๆ ของเราเพื่อที่เราจะมีเวลาทำในสิ่งที่สำคัญมากขึ้น  

11 พ.ย. 2561

ผลของการจ่ายบัตรเครดิต ไม่เต็มจำนวน

“เมื่อคิดจะรูดบัตรเครดิต ควรกันเงินส่วนหนึ่งไว้ให้เท่ากับจำนวนเงินที่รูดบัตรไปทุกครั้ง เพื่อเตรียมจ่ายแบบเต็มจำนวนและตรงเวลา ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้มีภาระดอกเบี้ยจ่ายและไม่ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในรอบบัญชีถัดไป”


  
      บัตรเครดิตถือเป็นไอเท็มยอดฮิตที่ทุกคนจะมีในกระเป๋าสตางค์ เพราะเวลาไปช็อปปิ้งที่ไหนก็สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตลอดเวลา ด้วยความที่รูดง่าย จ่ายไว บางคนก็เลยไม่สนใจวางแผนการใช้จ่ายบัตรเครดิตกันสักเท่าไร ทำให้พอถึงกำหนดจ่ายเงินแล้วก็ไม่มีเงินไปจ่ายแบบเต็มจำนวน แถมยังมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากรูดบัตรแล้วจ่ายไม่เต็มอีกด้วย ซึ่งเรื่องที่เราต้องรู้ หากคิดจะจ่ายบัตรไม่เต็มมีอะไรบ้าง ธนาคารมีคำตอบมาฝากครับ

1. ถูกคิดดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่วันที่เราซื้อของ
เรื่องนี้หลายคนชอบคิดไปเองว่า หากเรารูดบัตรแล้วจ่ายไม่เต็มจะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่เราค้างจ่ายบัตรเครดิต คือค้างจ่ายวันไหนก็จะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แต่จริงๆ แล้วไม่เป็นเช่นนั้นครับ เพราะเราจะถูกคิดดอกเบี้ยสูงสุด 15-20% ต่อปีทันทีตั้งแต่วันที่เราซื้อของ หรือวันที่สถาบันผู้ออกบัตรจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการแทนเราไปก่อน และคิดเป็นรายวันจนกว่าเราจะชำระหนี้หมดด้วย เช่น 
ถ้าเราไปช็อปปิ้งเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 โดยรูดบัตรไป 50,000 บาท พอถึงวันครบกำหนดชำระคือวันที่ 20 มีนาคม 2560 แล้วไม่มีเงินไปจ่ายแบบเต็มจำนวน จึงจ่ายไปเพียง 30,000 บาทเท่านั้น ดังนั้น เราจะถูกคิดดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่วันที่รูดบัตร (8 กุมภาพันธ์ 2560) ไม่ใช่วันที่เราเริ่มค้างจ่ายบัตรเครดิต (20 มีนาคม 2560) อย่างที่เข้าใจกันครับ  
2. ถูกคิดดอกเบี้ยทั้งจากยอดเงินที่ค้างจ่ายและยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบบัญชีนั้น
มีอีกหลายคนเช่นกันที่มักเข้าใจว่า หากเรารูดบัตรแล้วจ่ายไม่เต็มจะถูกคิดดอกเบี้ยเฉพาะยอดเงินที่เราค้างจ่ายเท่านั้น เช่น จากตัวอย่างข้างต้น เราค้างจ่ายอยู่ 20,000 บาท ดังนั้น ดอกเบี้ยก็ควรจะคิดจากยอด 20,000 บาทที่เรายังค้างจ่ายอยู่นี้ แต่ในความเป็นจริง นอกจากจะถูกคิดดอกเบี้ยจากยอดเงินที่ค้างจ่ายแล้ว เรายังถูกคิดดอกเบี้ยจากยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบบัญชีนั้นด้วย เพื่อความเข้าใจมากขึ้น ลองมาดูตัวอย่างวิธีคิดดอกเบี้ยกันครับ 

วันที่สรุปยอด
วันครบกำหนดชำระ
ยอดชำระเต็มจำนวน
ยอดชำระขั้นต่ำ
5 มีนาคม 2560
20 มีนาคม 2560
50,000
5,000
วันที่ใช้บัตร
วันที่บันทึกรายการ
รายการ
ยอดเงิน
8 กุมภาพันธ์ 2560
8 กุมภาพันธ์ 2560
Notebook
50,000

ดอกเบี้ยส่วนแรก
 จะคิดจากยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรอบบัญชีที่แล้ว คือ ยอดเงิน 50,000 บาท โดยจำนวนวันที่คิดดอกเบี้ยจะนับจากวันที่เราใช้จ่าย (8 กุมภาพันธ์ 2560) จนถึงวันก่อนที่ธนาคารจะได้รับชำระเงิน (19 มีนาคม 2560) รวม 40 วัน
(50,000 x 20% x 40) / 365 = 1,096 บาท 
ดอกเบี้ยส่วนที่สอง จะคิดจากยอดเงินต้นคงเหลือ คือ 50,000 - 30,000 = 20,000 บาท โดยจำนวนวันที่คิดดอกเบี้ยจะนับจากวันที่เราชำระเงินบางส่วน (20 มีนาคม 2560) จนถึงวันสรุปยอดรายการในเดือนถัดไป (5 เมษายน 2560) รวม 17 วัน 
(20,000 x 20% x 17) / 365 = 186 บาท 
รวมดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดแรกเท่ากับ 1,096 + 186 = 1,282 บาท โดยหากเรายังไม่มีเงินไปปิดหนี้บัตรเครดิต ทำให้มียอดค้างจ่ายอยู่ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยวนไปครับ

3.หากใช้บัตรเครดิตใบเดิมไปรูดซื้อของ ยอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใหม่จะถูกคิดดอกเบี้ยไปด้วย
หลายคนคิดว่า หากเรารูดบัตรแล้วจ่ายไม่เต็ม ก็ยังใช้บัตรเครดิตใบเดิมไปรูดซื้อของได้อีก โดยยอดใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใหม่    ไม่ถูกคิดดอกเบี้ยเพราะเป็นคนละส่วนกัน แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า หากทำแบบนั้น ยอดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใหม่จะถูกคิดดอกเบี้ยไปด้วย เพราะเราได้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในรอบบัญชีถัดไปแล้วนั่นเอง ดังนั้น แนะนำให้หยุดใช้บัตรเครดิตใบเดิมไปก่อน แล้วรีบหาเงินมาชำระหนี้บัตรให้หมด หลังจากนั้นถึงจะใช้บัตรเครดิตใบเดิมได้ตามปกติครับ 
มาถึงตรงนี้ น่าจะทำให้ใครหลายคนได้รู้และเข้าใจแล้วว่า หากรูดบัตรแล้วจ่ายไม่เต็มจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทางที่ดีแนะนำว่า เมื่อรูดบัตรเครดิตไปเท่าไร ให้กันเงินเท่ากับจำนวนที่รูดบัตรไปทุกครั้ง เพื่อเตรียมจ่ายแบบเต็มจำนวนและตรงเวลา นอกจากจะเป็นการสร้างวินัยในการใช้บัตรเครดิตแล้ว ยังช่วยให้เรามั่นใจว่าจะมีเงินไปจ่ายแบบเต็มจำนวนเมื่อถึงเวลา และไม่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายตามมาให้ต้องปวดหัวอีกด้วย


10เหรียญหายากในรัชกาลที่ 9

     เป็นที่ฮือฮาหลังเกิดกระแสจากเหล่าบรรดานักสะสมที่ออกประกาศรับซื้อเหรียญ 10 บาท รัชกาลที่ 9 พ.ศ. 2533 ในราคาสูงถึง 100,000 บาท ทำเอาเหล่านักสะสมทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นต่างสำรวจว่ามีเหรียญหายากอยู่ในครอบครองหรือไม่ วันนี้เราจะพาไปดูกับ 10 อันดับเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนหายากในรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นเหรียญที่นักสะสมอยากเอามาเก็บไว้มากที่สุด แถมราคาในการซื้อขายแลกเปลี่ยนว่ากันว่าแพงไม่ธรรมดาทีเดียว
อันดับ 10 เหรียญกษาปณ์อะลูมิเนียมราคา เหรียญ 5 สตางค์ พ.ศ. 2530 ผลิตจำนวน 10,000 เหรียญ
อันดับ 9 เหรียญกษาปณ์อะลูมิเนียมราคา เหรียญ 10 สตางค์ พ.ศ. 2530 ผลิตจำนวน 5,000 เหรียญ
อันดับ 8 เหรียญกษาปณ์นิกเกิลราคา เหรียญ 1 บาท พ.ศ. 2529 ด้านหลังช่อฟ้าหางยาว
อันดับ 7 เหรียญกษาปณ์อะลูมิเนียมบรอนซ์ราคา เหรียญ 50 สตางค์ พ.ศ. 2530 ผลิตจำนวน 1,000 เหรียญ
อันดับ 6 เหรียญกษาปณ์อะลูมิเนียมบรอนซ์ราคา เหรียญ 50 สตางค์ พ.ศ. 2493 ด้านหลังตัวหนังสือหนา
อันดับ 5 เหรียญกษาปณ์นิกเกิลราคา เหรียญ 1 บาท พ.ศ. 2525 ด้านหน้าพระเศียรเล็ก
อันดับ 4 เหรียญกษาปณ์อะลูมิเนียมบรอนซ์ราคา เหรียญ 10 สตางค์ พ.ศ. 2500 ด้านหลังสิบสตางค์หางยาว
อันดับ 3 เหรียญกษาปณ์อะลูมิเนียมบรอนซ์ราคา เหรียญ 25 สตางค์ พ.ศ. 2500 ด้านหลังตัวหนังสือบาง
อันดับ 2 เหรียญกษาปณ์สองสีราคา เหรียญ 10 บาท พ.ศ. 2533 ผลิตออกมาเพียง จำนวน 100 เหรียญ
อันดับ 1 เหรียญกษาปณ์นิกเกิลเคลือบไส้ทองแดงราคา เหรียญ 5 บาท พ.ศ. 2525 ด้านพระเศียรเล็ก (หายากมากและรับซื้อราคาสูง)


    สำหรับราคาก็มีตั้งไว้คร่าวๆประมาณนี้ครับ

9 พ.ย. 2561

10 งานอดิเรกแนะนำ

10 วิธีหาเงินเพิ่ม คุณเป็นคนที่เงินไม่พอใช้ ใช่หรือป่าว ถ้าคำตอบคือ "ใช่" ก็ตามเรามาเลย


     เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีจะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ ก็คงจะแค่มีตัวเราเองที่จะต้องช่วยเหลือตัวเอง ดังสุภาษิตที่ว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ว่าแต่จะมีทางไหนที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับตัวเราบ้าง หลายคนก็คงมองหาอาชีพเสริมทำเพิ่มจากงานประจำ ซึ่งอาชีพที่เราจะมาแนะนำต่อไปนี้รับรองได้ว่าจะทำให้คุณมีรายได้เพิ่มขึ้นได้แน่ ๆ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นเราลองไปดูกันเลยดีกว่า

ทำงานพาร์ทไทม์

          เป็นพนักงานชงกาแฟ พนักงานร้านสะดวกซื้อ พนักงานมินิมาร์ท พนักงานดูแลร้าน ผู้ช่วยอาจารย์ และอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณสามารถทำพาร์ทไทม์ได้ ซึ่งปกติงานพาร์ทไทม์จะทำอยู่ที่คนละ 4-6 ชั่วโมง ถ้าในวันเสาร์-อาทิตย์ คุณไม่อยากปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ก็ลองเดินไปสมัครทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ดูสิ นี่เป็นการหารายได้เสริมอีกทางหนึ่งนะ  


รับจ้างดูแลสัตว์เลี้ยง
        
          ถ้าคุณเป็นคนรักสัตว์ งานนี้เหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เขามาจ้างให้คุณไปดูแลสัตว์เลี้ยงของเขาก็จะเป็นเจ้าของสุนัข หรือเจ้าของแมวซะเป็นส่วนใหญ่
        
เป็นพี่เลี้ยงเด็ก

          ในบางครั้งพ่อแม่ก็มีงานยุ่งเกินกว่าจะสามารถดูแลลูกน้อยได้ตลอดเวลา หรือไม่บางทีในช่วงสุดสัปดาห์ คู่รักบางคู่ที่มีโซ่ทองคล้องใจแล้ว อาจจะอยากไปเที่ยวข้างนอกกัน 2 ต่อ 2 บ้าง การจะนำลูกน้อยไปด้วยก็คงจะไม่สะดวก ดังนั้นนี่คือโอกาสที่คุณจะรับทรัพย์เพิ่มจากการรับเลี้ยงเด็ก แต่ก็ต้องแน่ใจด้วยนะว่าคุณเป็นคนรักเด็ก มีจิตใจโอบอ้อมอารี ไม่ใช่สักแต่ว่าอยากได้เงินแต่ดูแลเด็กไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่เวิร์กนะ 

ติวเตอร์ สอนพิเศษ
      
          ยุคนี้สมัยนี้บอกได้เลยว่างานติวเตอร์บูมมาก คนหันมาจับงานติวเตอร์มีทั้งแบบพาร์ทไทม์และแบบยึดเป็นอาชีพหลัก จะบอกให้ว่ารายได้ของติวเตอร์สมัยนี้งดงามมาก ดังนั้นถ้าคุณมั่นใจว่าทักษะทางด้านวิชาการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นวาดภาพ คำนวณ ภาษานั้นแข็งแรงพอ ก็อย่าปล่อยโอกาสมีเงินเพิ่มลอยไปกับสายลม

นักเขียนอิสระ Blogger

          อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งรายได้ชั้นดีเลยล่ะ เมื่อทุกวันนี้การเป็นนักเขียนไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในวงการหนังสือเท่านั้น มีนักเขียนหลายคนที่เขียนงานของตนเองลงในโลกออนไลน์ซึ่งก็ได้ค่าจ้างต่องาน 1 ชิ้นมากพอสมควร แถมคุณแค่เขียนแล้วก็รอทางเว็บไซต์ตรวจพิสูจน์อักษรและลิขสิทธิ์ หลังจากผ่านก็หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเล็กน้อย คุณก็จะได้รับเงินไป เห็นไหมว่าไม่ต้องลงทุนอะไรนอกจากความคิดและรอรับสตางค์

ออกแบบโลโก้เว็บไซต์

          ถ้าคุณมีความสามารถด้านการออกแบบและทำกราฟิกแล้วละก็ นี่คือหนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมมากพอสมควร เพราะรายได้ค่อนข้างดี อีกทั้งการออกแบบโลโก้ให้กับเว็บไซต์เป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และต้องตอบโจทย์ความเป็นตัวตนของเว็บไซต์นั้น ๆ ดังนั้นถ้าคุณใช้ Photoshop ได้แบบขั้นเทพ เราว่างานนี้เป็นงานที่ให้ผลตอบแทนได้ดีพอสมควรเลยล่ะ

เปิดท้ายขายของ

          วันหยุดสุดสัปดาห์อาชีพเสริมสุดชิคที่พ่อค้าแม่ค้าวัยรุ่นนิยมทำกันมากใน ช่วงนี้คงหนีไม่พ้นการไปเปิดท้ายขายของ ซึ่งทุกวันนี้ไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพมหานครเท่านั้นที่มีถนนคนเดินกันแบบเป็นล่ำเป็นสัน จะเห็นได้ว่าถนนคนเดินทุกวันนี้มีเกือบทุกจังหวัด ซึ่งเมื่อโอกาสเปิดกว้างขนาดนี้แล้ว ลองนำสิ่งของอาจจะเป็นมือสองสภาพดีไปขาย หรือไม่ก็อาจจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ไปหาเงินเข้ากระเป๋าดีกว่า

ทำของแฮนด์เมดออกขาย

          ถ้าคุณมีฝีมือในการประดิษฐ์สิ่งของทำมือ เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ หรือแม้แต่อาหาร (คลีน) ลองใช้ฝีมือและศักยภาพที่คุณมีอยู่ในการทำสิ่งของเหล่านี้ขึ้นมา คุณเชื่อไหมว่าผู้คนให้ความสำคัญกับสิ่งของทำมือมาก เพราะมันใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ใช้ทั้งความอดทน ใช้ทั้งทักษะทางด้านศิลปะ สินค้าเหล่านี้จึงมีราคาสูง นี่จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้คุณมีรายได้เพิ่มแล้วล่ะ

ขายภาพ

          มีช่างภาพหลายคนชื่นชอบการถ่ายภาพแนว portrait เน้นบุคคล หรือเน้นวัตถุ ซึ่งถ้าใครถ่ายภาพให้ออกมาได้สวยและดูมีความหมาย คุณอาจนำภาพไปขายในเว็บไซต์ต่างประเทศได้เลย ซึ่งราคาของภาพ ๆ หนึ่งนั้นก็สูงเอาการเลยทีเดียว
แนะนำเว๊ปขายภาพ
ส่งอาหารเดลิเวอรี่
         
          ธุรกิจรับจ้างส่งพิซซ่า ไก่ทอด และอาหารตามสั่ง มีมานานแล้ว และกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งคุณสมบัตินั้นไม่มีอะไรซับซ้อน ขอเพียงแค่คุณมีรถมอเตอร์ไซค์ และหัวใจรักงานบริการ งานส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ก็ตอบโจทย์นะ
ขายหมูปิ้ง

          อย่าคิดว่าการขายหมูปิ้งเป็นเรื่องเล่น ๆ นะครับ การขายหมูปิ้งถึงแม้จะง่ายก็จริง แต่ก็ต้องการการใส่ใจรายละเอียดในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การเลือกเนื้อหมู ไปจนถึงการปิ้งเลยล่ะ แต่ถึงแม้ว่าเราจะต้องเอาใจใส่ในเรื่องนี้มาก แต่ผลตอบแทนก็คุ้มมากพอจะสร้างรายได้ให้พ่อค้าแม่ค้าหลายคนได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งเรามีตัวอย่างคนที่ขายหมูปิ้งจนประสบความสำเร็จระดับที่ขายได้ปีละ 200 ล้านบาท ถ้าสนใจว่าชีวิตเขาเป็นมาอย่างไร สามารถอ่านได้จากที่นี่เลย หมูปิ้งเฮียนพ จากพนักงานโรงงานที่ถูกเลิกจ้างเพราะพิษเศรษฐกิจ ผ่านงานมามากมายทั้ง รปภ. คนขับแท็กซี่ เป็นวินมอเตอร์ไซค์ จนกระทั่งได้สูตรหมูปิ้งมาจากแม่บ้านแฟลตตำรวจ เริ่มจากขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม้ละ 5.50 บาท เมื่อหลายคนติดใจในรสชาติก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของความร่ำรวยมาจนถึงปัจจุบัน


เครดิตร : kapook.com